Adverb Clause

Adverb Clause
Photo by Kourosh Qaffari / Unsplash

On this page

Adverb Clause (อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกริยาวิเศษณ์)

ความหมาย

💡
Meaning : 

อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกริยาวิเศษณ์ (Adverb Clause) คือ ประโยคย่อยทำหน้าที่เหมือนกริยาวิเศษณ์ โดยทำหน้าที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยคหลัก (Main Clause) บอกถึง ช่วงเวลา สถานที่ วิธีการ สาเหตุ หรือ เงื่อนไข

ลักษณะเด่นของ Adverb Clause

  • ขึ้นต้นด้วย "สังโยคประสม" (Subordinating Conjunction) เช่น after, although, as, as if, as long as, as though, because, before, if, since, unless, until, when, where, while
  • "สังโยคประสม" ทำหน้าที่เชื่อม อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกริยาวิเศษณ์ กับ ประโยคหลัก และทำหน้าที่บอกความสัมพันธ์ระหว่างประโยคย่อยกับประโยคหลัก
  • ตัวอย่าง: "ผมจะออกไป หลังจาก ทำงานเสร็จ" ("หลังจากทำงานเสร็จ" คือ อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกริยาวิเศษณ์)
  • วางหน้า กลาง หรือ ท้าย ประโยคหลักก็ได้ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างประโยค
  • ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือการกระทำที่กล่าวถึงในประโยคหลัก

  • เครื่องหมายวรรคมีความสำคัญ
    • อนุประโยคที่ไม่จำกัดความ (Non-restrictive Adverb Clause) มักมีเครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นหน้า
    • อนุประโยคที่จำกัดความ (Restrictive Adverb Clause) ไม่มีเครื่องหมายจุลภาคคั่นหน้า
  • อนุประโยคที่จำกัดความ ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อความหมายของประโยคตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษพร้อมคำอธิบาย Adverb Clause ชนิดต่าง ๆ

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

เครื่องหมายวรรคกับ Adverb Clause: อธิบายเพิ่มเติมพร้อมตัวอย่าง

เครื่องหมายวรรคมีความสำคัญ ในการแยกประเภทของ Adverb Clause

1. อนุประโยคที่ไม่จำกัดความ (Non-restrictive Adverb Clause)

  • มักมีเครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นหน้า
  • ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยคหลัก แต่ไม่จำเป็นต่อความหมายของประโยค
  • สามารถเอาออกได้โดยไม่เปลี่ยนความหมายของประโยคหลัก

ตัวอย่าง:

  • I saw John, who lives next door, at the store. (ฉันเห็นจอห์น ที่อาศัยอยู่ข้างบ้าน ที่ร้านค้า)
    • "who lives next door" บอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจอห์น แต่ไม่จำเป็นต่อความหมายของประโยค (ฉันเห็นจอห์นที่ร้านค้า)
  • She is a teacher, which I find surprising. (เธอเป็นครู ซึ่งฉันรู้สึกประหลาดใจ)
    • "which I find surprising" บอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพของเธอ แต่ไม่จำเป็นต่อความหมายของประโยค (เธอเป็นครู)

2. อนุประโยคที่จำกัดความ (Restrictive Adverb Clause)

  • ไม่มีเครื่องหมายจุลภาคคั่นหน้า
  • ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อความหมายของประโยค
  • ไม่สามารถเอาออกได้โดยไม่เปลี่ยนความหมายของประโยคหลัก

ตัวอย่าง:

  • The woman who is wearing a red dress is my sister. (ผู้หญิง ที่ใส่ชุดสีแดง คือพี่สาวของฉัน)
    • "who is wearing a red dress" จำกัดความว่าผู้หญิงคนไหนคือพี่สาวของฉัน
  • The book that I bought yesterday is interesting. (หนังสือ ที่ฉันซื้อเมื่อวานนี้ น่าสนใจ)
    • "that I bought yesterday" จำกัดความว่าหนังสือเล่มไหนที่น่าสนใจ

3. ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษพร้อมคำอธิบาย Adverb Clause ชนิดต่าง ๆ

Time Adverb Clause (อนุประโยคบอกเวลา)

  • Non-restrictive: I will see you tomorrow, when I get off work. (ฉันจะเจอคุณพรุ่งนี้ เมื่อฉันเลิกงาน)
  • Restrictive: The train that leaves at 5:00 PM is the express train. (รถไฟ ที่ออกตอน 5 โมงเย็น เป็นรถไฟด่วน)

Place Adverb Clause (อนุประโยคบอกสถานที่)

  • Non-restrictive: I met her in Paris, which is a beautiful city. (ฉันเจอเธอที่ปารีส ซึ่งเป็นเมืองที่สวยงาม)
  • Restrictive: The restaurant where we had dinner last night is very popular. (ร้านอาหาร ที่เราทานข้าวเย็นเมื่อคืน เป็นร้านที่ได้รับความนิยมมาก)

Manner Adverb Clause (อนุประโยคบอกวิธีการ)

  • Non-restrictive: She sings beautifully, as she has been trained since she was a child. (เธอร้องเพลงเพราะมาก เพราะเธอได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก)
  • Restrictive: The artist who paints in a unique style is my favorite. (ศิลปิน ที่วาดภาพด้วยสไตล์เฉพาะตัว คือคนที่ฉันชอบที่สุด)

Cause Adverb Clause (อนุประโยคบอกเหตุผล)

  • Non-restrictive: I was late for work, because I missed my alarm. (ฉันไปทำงานสาย เพราะฉันพลาดนาฬิกาปลุก)
  • Restrictive: The reason why I canceled the trip is because I was sick. (เหตุผล ที่ฉันยกเลิกทริป คือฉันป่วย)

Purpose Adverb Clause (อนุประโยคบอกจุดประสงค์)

  • Non-restrictive: She studies hard, so that she can get into a good university. (เธอเรียนหนัก เพื่อที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่ดี)
  • Restrictive: The purpose of my research is to find a cure for cancer. (วัตถุประสงค์ ของการวิจัยของฉัน คือการค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็ง)

ชนิดต่างของ Adverb Clause

💡
ชนิดต่างของ Adverb Clause

1. Time Adverb Clause (อนุประโยคบอกเวลา)

  • บอกความสัมพันธ์ของช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ในประโยคหลัก
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม เช่น after, before, when, while, as, until, once, as soon as
  • ตัวอย่าง: "We will leave after we finish eating." (เราจะออกไป หลังจาก ทานเสร็จ)
    • "after we finish eating" บอกเวลาที่เราจะออกไป (หลังจากทานเสร็จ)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Time Adverb Clause (อนุประโยคบอกเวลา) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Time Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกเวลา ใช้บอกความสัมพันธ์ของช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ในประโยคหลัก โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงเวลา เช่น after, before, when, while, as, until, once, as soon as

ตัวอย่างประโยค:

  • After we finish eating, we will go to the movies. (หลังจาก ทานเสร็จ เราจะไปดูหนัง)
    • "After we finish eating" บอกเวลาที่เราจะไปดูหนัง (หลังจากทานเสร็จ)
  • Before I left for work, I checked my email. (ก่อน ไปทำงาน ฉันเช็คอีเมล)
    • "Before I left for work" บอกเวลาที่ฉันเช็คอีเมล (ก่อนไปทำงาน)
  • When I saw her, I knew it was love at first sight. (เมื่อ ฉันเห็นเธอ ฉันรู้ว่ามันเป็นรักแรกพบ)
    • "When I saw her" บอกเวลาที่ฉันรู้ว่ามันเป็นรักแรกพบ (เมื่อฉันเห็นเธอ)
  • While I was waiting for the bus, I read a book. (ในขณะที่ รอรถบัส ฉันอ่านหนังสือ)
    • "While I was waiting for the bus" บอกเวลาที่ฉันอ่านหนังสือ (ในขณะที่รอรถบัส)
  • As soon as I get home, I will call you. (ทันทีที่ ฉันกลับถึงบ้าน ฉันจะโทรหาคุณ)
    • "As soon as I get home" บอกเวลาที่ฉันจะโทรหาคุณ (ทันทีที่ฉันกลับถึงบ้าน)
  • I will only come to the party if it ends before midnight. (ฉันจะไปงานปาร์ตี้เฉพาะกรณีที่งานเลิกก่อนเที่ยงคืน)
    • "if it ends before midnight" บอกเงื่อนไขว่าฉันจะไปงานปาร์ตี้ (เฉพาะกรณีที่งานเลิกก่อนเที่ยงคืน)
  • Once I have saved enough money, I will travel around the world. (เมื่อ ฉันมีเงินเก็บมากพอ ฉันจะไปเที่ยวรอบโลก)
    • "Once I have saved enough money" บอกเวลาที่ฉันจะไปเที่ยวรอบโลก (เมื่อฉันมีเงินเก็บมากพอ)

Time Adverb Clause ยังสามารถใช้บ่งบอกช่วงเวลา ของเหตุการณ์

ตัวอย่างประโยค:

  • The meeting will be held on Monday at 10:00 AM. (การประชุมจะจัดขึ้นในวันจันทร์ เวลา 10:00 น.)
  • She was born in the 1980s. (เธอเกิดในทศวรรษ 1980)
  • I have lived in Bangkok for five years. (ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มาห้าปีแล้ว)
  • The store is open from 9:00 AM to 5:00 PM. (ร้านเปิดตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 5:00 น.)

การใช้ Time Adverb Clause อย่างถูกต้อง ช่วยให้ประโยคของคุณมีความชัดเจน สื่อความหมายได้แม่นยำ และแสดงถึงความสัมพันธ์ของช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Place Adverb Clause (อนุประโยคบอกสถานที่)

  • บอกสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ในประโยคหลัก
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "where, wherever"
  • ตัวอย่าง: "I will find you wherever you are." (ฉันจะตามหาคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน)
    • "wherever you are" บอกสถานที่ที่เราจะตามหา (ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Place Adverb Clause (อนุประโยคบอกสถานที่) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Place Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกสถานที่ ใช้บอกสถานที่ ที่เกิดเหตุการณ์ในประโยคหลัก โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงสถานที่ เช่น where, wherever

ตัวอย่างประโยค:

  • **I will find you wherever you are. (ฉันจะตามหาคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน)
    • "wherever you are" บอกสถานที่ที่เราจะตามหา (ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน)
  • **The book you are looking for is on the shelf. (หนังสือที่คุณกำลังมองหาอยู่ บนชั้นวาง)
    • "on the shelf" บอกสถานที่ของหนังสือ (บนชั้นวาง)
  • **I met her in Paris. (ฉันเจอเธอ ที่ปารีส)
    • "in Paris" บอกสถานที่ที่เจอเธอ (ที่ปารีส)
  • **The concert will be held at the stadium. (คอนเสิร์ตจะจัดขึ้น ที่สนามกีฬา)
    • "at the stadium" บอกสถานที่ของคอนเสิร์ต (ที่สนามกีฬา)
  • **I will go wherever the wind takes me. (ฉันจะไป ตามใจลมพัดไป)
    • "wherever the wind takes me" บอกสถานที่ที่ฉันจะไป (ตามใจลมพัดไป)

Place Adverb Clause ยังสามารถใช้บ่งบอกทิศทาง ของเหตุการณ์

ตัวอย่างประโยค:

  • **The car turned to the left. (รถเลี้ยว ไปทางซ้าย)
  • **She walked straight ahead. (เธอเดิน ตรงไปข้างหน้า)
  • **The plane flew over the mountains. (เครื่องบินบิน เหนือภูเขา)
  • **The river flows into the sea. (แม่น้ำไหล ลงสู่ทะเล)

3. Manner Adverb Clause (อนุประโยคบอกวิธีการ)

  • บอกลักษณะวิธีการที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "as, as if, like, the way"
  • ตัวอย่าง: "She runs as if her life depends on it." (เธอวิ่ง เหมือนกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน)
    • "as if her life depends on it" บอกวิธีการวิ่งของเธอ (เหมือนกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Manner Adverb Clause (อนุประโยคบอกวิธีการ) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Manner Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกวิธีการ ใช้อธิบายลักษณะ หรือ วิธีการ ที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงวิธีการ เช่น as, as if, like, the way

ตัวอย่างประโยค:

  • **She runs as if her life depends on it. (เธอวิ่ง เหมือนกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน)
    • "as if her life depends on it" บอกวิธีการวิ่งของเธอ (เหมือนกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน)
  • **He speaks in a soft voice. (เขาพูด **ด้วยน้ำเสียงที่เบา **)
    • "in a soft voice" บอกวิธีการพูดของเขา (ด้วยน้ำเสียงที่เบา)
  • **The artist paints in a unique style. (ศิลปินวาดภาพ ด้วยสไตล์เฉพาะตัว)
    • "in a unique style" บอกวิธีการวาดภาพของศิลปิน (ด้วยสไตล์เฉพาะตัว)
  • **She danced like nobody was watching. (เธอเต้น เหมือนไม่มีใครมอง)
    • "like nobody was watching" บอกวิธีการเต้นของเธอ (เหมือนไม่มีใครมอง)
  • **The child cried the way a baby cries. (เด็กน้อยร้องไห้ เหมือนเด็กทารก)
    • "the way a baby cries" บอกวิธีการร้องไห้ของเด็กน้อย (เหมือนเด็กทารกร้องไห้)

Manner Adverb Clause ยังสามารถใช้เปรียบเทียบ วิธีการ

ตัวอย่างประโยค:

  • **She sings as beautifully as a bird. (เธอร้องเพลง ไพเราะเหมือนนก)
  • **He runs faster than the wind. (เขาวิ่ง เร็วกว่าสายลม)
  • **She cooks better than anyone I know. (เธอทำอาหาร เก่งกว่าใครก็ตามที่ฉันรู้จัก)

4. Cause Adverb Clause (อนุประโยคบอกเหตุผล)

  • ให้เหตุผลสำหรับการกระทำในประโยคหลัก
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "because, since, as, now that"
  • ตัวอย่าง: "I will cancel my trip because I'm sick." (ฉันจะยกเลิกทริป เพราะ ฉันป่วย)
    • "because I'm sick" บอกเหตุผลที่ฉันจะยกเลิกทริป (เพราะฉันป่วย)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Cause Adverb Clause (อนุประโยคบอกเหตุผล) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Cause Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกเหตุผล ใช้อธิบายเหตุผล สำหรับการกระทำในประโยคหลัก โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงเหตุผล เช่น because, since, as, now that

ตัวอย่างประโยค:

  • **I will cancel my trip because I'm sick. (ฉันจะยกเลิกทริป เพราะ ฉันป่วย)
    • "because I'm sick" บอกเหตุผลที่ฉันจะยกเลิกทริป (เพราะฉันป่วย)
  • **She was late for work since she missed her alarm. (เธอไปทำงานสาย เพราะ เธอพลาดนาฬิกาปลุก)
    • "since she missed her alarm" บอกเหตุผลที่เธอไปทำงานสาย (เพราะเธอพลาดนาฬิกาปลุก)
  • **I am angry as you lied to me. (ฉันโกรธ เพราะ คุณโกหกฉัน)
    • "as you lied to me" บอกเหตุผลที่ฉันโกรธ (เพราะคุณโกหกฉัน)
  • Now that I have finished my homework, I can go out and play. (ตอนนี้ ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว ฉันสามารถ ออกไปเล่นได้)
    • "Now that I have finished my homework" บอกเหตุผลที่ฉันสามารถออกไปเล่นได้ (ตอนนี้ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว)

Cause Adverb Clause ยังสามารถใช้อธิบายผลลัพธ์ ที่เกิดจากเหตุการณ์

ตัวอย่างประโยค:

  • **The accident happened because the driver was speeding. (อุบัติเหตุเกิดขึ้น เพราะ คนขับขับรถเร็ว)
  • **I am not surprised that she failed the exam, since she never studied. (ฉันไม่แปลกใจเลยที่เธอสอบตก เพราะ เธอไม่เคยอ่านหนังสือ)
  • **The room was so crowded as everyone wanted to see the presentation. (ห้องนั้นแออัดมาก เพราะ ทุกคนอยากดูงานนำเสนอ)

5. Purpose Adverb Clause (อนุประโยคบอกจุดประสงค์)

  • บอกจุดประสงค์หรือเป้าหมายของการกระทำ
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "so that, in order that, lest"
  • ตัวอย่าง: "She studied hard so that she could pass the exam." (เธอตั้งใจเรียน เพื่อที่จะ สอบผ่าน)
    • "so that she could pass the exam" บอกจุดประสงค์ที่เธอตั้งใจเรียน (เพื่อที่จะสอบผ่าน)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Purpose Adverb Clause (อนุประโยคบอกจุดประสงค์) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Purpose Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกจุดประสงค์ ใช้อธิบายจุดประสงค์ หรือ เป้าหมาย ของการกระทำ โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงจุดประสงค์ เช่น so that, in order that, lest

ตัวอย่างประโยค:

  • **She studied hard so that she could pass the exam. (เธอตั้งใจเรียน เพื่อที่จะ สอบผ่าน)
    • "so that she could pass the exam" บอกจุดประสงค์ที่เธอตั้งใจเรียน (เพื่อที่จะสอบผ่าน)
  • **I saved up money in order that I could travel around the world. (ฉันเก็บเงิน เพื่อว่า จะได้ไปเที่ยวรอบโลก)
    • "in order that I could travel around the world" บอกจุดประสงค์ที่ฉันเก็บเงิน (เพื่อว่าจะได้ไปเที่ยวรอบโลก)
  • **He locked the door lest he forget the key. (เขา ล็อกประตู เผื่อว่า จะลืมกุญแจ)
    • "lest he forget the key" บอกจุดประสงค์ที่เขา ล็อกประตู (เผื่อว่าจะลืมกุญแจ)

Purpose Adverb Clause ยังสามารถใช้อธิบายผลลัพธ์ ที่คาดหวัง

ตัวอย่างประโยค:

  • **I spoke to her so that she would understand. (ฉันพูดกับเธอ เพื่อว่า เธอจะเข้าใจ)
  • **We left early in order to avoid the traffic. (เราออกเดินทางเร็ว เพื่อจะ หลีกเลี่ยงรถติด)
  • **She studied hard lest she fail the exam. (เธอตั้งใจเรียน เผื่อว่า จะสอบตก)

การใช้ Purpose Adverb Clause อย่างถูกต้อง ช่วยให้ประโยคของคุณมีความชัดเจน สื่อความหมายได้แม่นยำ และแสดงถึงจุดประสงค์หรือผลลัพธ์ที่คาดหวังของการกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม:

  • **I bought a new computer so that I could work more efficiently. (ฉันซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เพื่อที่จะ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น)
  • **She went to the doctor in order to get a check-up. (เธอไปหาหมอ เพื่อจะ ตรวจสุขภาพ)
  • **He closed the windows lest it rain. (เขาปิดหน้าต่าง เผื่อว่า จะฝนตก)

6. Condition Adverb Clause (อนุประโยคบอกเงื่อนไข)

  • บรรยายสถานการณ์ที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางอย่าง
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "if, unless, as long as, provided (that), on condition (that)"
  • ตัวอย่าง: "I'll drive you if you pay for gas." (ฉันจะไปรับคุณ ถ้า คุณจ่ายค่าน้ำมัน)
    • "if you pay for gas" บอกเงื่อนไขที่ฉันจะไปรับคุณ (ถ้าคุณจ่ายค่าน้ำมัน)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Condition Adverb Clause (อนุประโยคบอกเงื่อนไข) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Condition Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกเงื่อนไข ใช้บรรยายสถานการณ์ ที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางอย่าง โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงเงื่อนไข เช่น if, unless, as long as, provided (that), on condition (that)

ตัวอย่างประโยค:

  • **I'll drive you if you pay for gas. (ฉันจะไปรับคุณ ถ้า คุณจ่ายค่าน้ำมัน)
    • "if you pay for gas" บอกเงื่อนไขที่ฉันจะไปรับคุณ (ถ้าคุณจ่ายค่าน้ำมัน)
  • **She will only come to the party unless it ends before midnight. (เธอจะไปงานปาร์ตี้ เฉพาะกรณีที่ งานเลิกก่อนเที่ยงคืน)
    • "unless it ends before midnight" บอกเงื่อนไขว่าเธอจะไปงานปาร์ตี้ (เฉพาะกรณีที่งานเลิกก่อนเที่ยงคืน)
  • **I will help you with your homework as long as you promise to finish it on time. (ฉันจะช่วยเธอทำการบ้าน ตราบใดที่ เธอสัญญาว่าจะทำให้เสร็จตรงเวลา)
    • "as long as you promise to finish it on time" บอกเงื่อนไขที่ฉันจะช่วยเธอทำการบ้าน (ตราบใดที่เธอสัญญาว่าจะทำให้เสร็จตรงเวลา)
  • **I will give you the money provided that you return the book to me. (ฉันจะให้เงินเธอ ด้วยเงื่อนไขว่า เธอคืนหนังสือให้ฉัน)
    • "provided that you return the book to me" บอกเงื่อนไขที่ฉันจะให้เงินเธอ (ด้วยเงื่อนไขว่าเธอคืนหนังสือให้ฉัน)
  • **You can use my car on condition that you don't drive it too fast. (เธอสามารถใช้รถของฉันได้ โดยมีเงื่อนไขว่า เธอจะไม่ขับเร็วเกินไป)
    • "on condition that you don't drive it too fast" บอกเงื่อนไขที่เธอสามารถใช้รถของฉันได้ (โดยมีเงื่อนไขว่าเธอจะไม่ขับเร็วเกินไป)

Condition Adverb Clause ยังสามารถใช้แสดงทางเลือก

ตัวอย่างประโยค:

  • You can either come with me or stay at home. (เธอสามารถมากับฉันหรืออยู่บ้านก็ได้)
  • If you are not feeling well, you can take a day off work. (ถ้าเธอไม่สบาย เธอสามารถลาป่วยได้)
  • Unless you change your mind, I will go to the party alone. (ถ้าเธอไม่เปลี่ยนใจ ฉันจะไปงานปาร์ตี้คนเดียว)

การใช้ Condition Adverb Clause อย่างถูกต้อง ช่วยให้ประโยคของคุณมีความชัดเจน สื่อความหมายได้แม่นยำ และแสดงถึงสถานการณ์ที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม:

  • I will go to the movies with you if you haven't seen the movie already. (ฉันจะไปดูหนังกับเธอ ถ้าเธอยังไม่เคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อน)
  • She will only be happy if she gets an A on the exam. (เธอจะมีความสุขก็ต่อเมื่อเธอได้ A ในการสอบ)
  • I can't help you with the project unless you give me more information. (ฉันไม่สามารถช่วยเธอทำโปรเจคได้ จนกว่าเธอจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ฉัน)

7. Concession Adverb Clause (อนุประโยคบอกการยอมรับ)

  • บอกความขัดแย้งหรือความต่าง ถึงแม้จะมีสถานการณ์อื่น ๆ
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "although, though, even though, while, whereas"
  • ตัวอย่าง: "Although it was late, I stayed to finish my work." (ถึงแม้มันจะดึกแล้ว แต่ฉันก็อยู่ต่อเพื่อทำงานให้เสร็จ)
    • "Although it was late" บอกความขัดแย้งกับการอยู่ทำงานต่อ (ถึงแม้มันจะดึกแล้ว)

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Concession Adverb Clause (อนุประโยคบอกการยอมรับ) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Concession Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกการยอมรับ ใช้อธิบายความขัดแย้ง หรือ ความแตกต่าง ของสถานการณ์ โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงความขัดแย้ง เช่น although, though, even though, while, whereas

ตัวอย่างประโยค:

  • Although it was late, I stayed to finish my work. (ถึงแม้มันจะดึกแล้ว แต่ ฉันก็อยู่ต่อเพื่อทำงานให้เสร็จ)
    • "Although it was late" บอกความขัดแย้งกับการอยู่ทำงานต่อ (ถึงแม้มันจะดึกแล้ว)
  • Though she was tired, she continued to walk. (ถึงแม้ว่า เธอจะเหนื่อย แต่เธอก็ยังคงเดินต่อไป)
    • "Though she was tired" บอกความขัดแย้งกับการเดินต่อไป (ถึงแม้ว่าเธอจะเหนื่อย)
  • Even though I didn't study, I passed the exam. (แม้ว่า ฉันจะไม่ทบทวน แต่ฉันก็สอบผ่าน)
    • "Even though I didn't study" บอกความขัดแย้งกับการสอบผ่าน (แม้ว่าฉันจะไม่ทบทวน)
  • While she was talking on the phone, I was working on my computer. (ในขณะที่ เธอกำลังคุยโทรศัพท์ ฉันกำลังทำงานบนคอมพิวเตอร์)
    • "While she was talking on the phone" บอกถึงสถานการณ์ที่ขัดแย้งกัน (ในขณะที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์)
  • Whereas he is outgoing, his sister is shy. (ในขณะที่ เขาเป็นคนชอบเข้าสังคม แต่พี่สาวของเขากลับขี้อาย)
    • "Whereas he is outgoing" บอกถึงความแตกต่างของบุคลิก (ในขณะที่เขาเป็นคนชอบเข้าสังคม)

Concession Adverb Clause ยังสามารถใช้ย้ำความจริง หรือ เน้นย้ำ บางสิ่งบางอย่าง

ตัวอย่างประโยค:

  • **I will go to the party, although I'm not feeling well. (ฉันจะไปงานปาร์ตี้ ถึงแม้ว่า ฉันจะไม่สบาย)
  • **She is a great singer, even though she is only a beginner. (เธอเป็นนักร้องที่เก่งมาก แม้ว่า เธอจะเพิ่งเริ่มต้น)
  • **I will finish the project on time, even if it means working late. (ฉันจะทำให้โปรเจคเสร็จตรงเวลา ถึงแม้ว่า จะต้องทำงานล่วงเวลา)

การใช้ Concession Adverb Clause อย่างถูกต้อง ช่วยให้ประโยคของคุณมีความชัดเจน สื่อความหมายได้แม่นยำ และแสดงถึงความขัดแย้งหรือความแตกต่างของสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม:

  • **I will help you with your homework, although I'm busy with my own work. (ฉันจะช่วยเธอทำการบ้าน ถึงแม้ว่า ฉันจะยุ่งกับงานของฉันเอง)
  • **She is a kind person, even though she can be a bit stubborn sometimes. (เธอเป็นคนดี ถึงแม้ว่า เธอจะดื้อรั้นบ้างในบางครั้ง)
  • **I will never give up on my dreams, no matter how difficult things get. (ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้กับความฝันของฉัน ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม)

8. Degree Adverb Clause (อนุประโยคบอกระดับ)

  • บ่งบอกขอบเขตหรือระดับของการกระทำ
  • ขึ้นต้นด้วยสังโยคประสม "as...as, not so...as, the...the"
  • ตัวอย่าง: "The more you practice, the better you will become." (ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น)
    • "The more you practice" บอกระดับของการฝึกฝน (ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่)
    • "the better you will become" บอกระดับความเก่งคือคุณก็จะเก่งมากขึ้นเท่านั้น

🔮 รายละเอียดเพิ่มเติม (ย่อ - ขยาย ) ---- > Click

อธิบายเพิ่มเติม Degree Adverb Clause (อนุประโยคบอกระดับ) พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Degree Adverb Clause หรือ อนุประโยคบอกระดับ ใช้บ่งบอกขอบเขต หรือ ระดับ ของการกระทำ โดยจะขึ้นต้นด้วยสังโยคประสมที่เชื่อมโยงระดับ เช่น as...as, not so...as, the...the

ตัวอย่างประโยค:

  • The more you practice, the better you will become. (ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น)
    • "The more you practice" บอกระดับของการฝึกฝน (ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่)
    • "the better you will become" บอกระดับความเก่งคือคุณก็จะเก่งมากขึ้นเท่านั้น
  • The movie was not as exciting as I expected. (ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าที่ฉันคาดหวังไว้)
    • "not as exciting as I expected" บอกระดับความคาดหวังและความเป็นจริง (ไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าที่ฉันคาดหวังไว้)
  • The sooner you start, the sooner you will finish. (คุณเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะเสร็จเร็วเท่านั้น)
    • "The sooner you start" บอกระดับความเร็วของการเริ่มต้น (คุณเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่)
    • "the sooner you will finish" บอกระดับความเร็วของการเสร็จสิ้น (คุณก็จะเสร็จเร็วเท่านั้น)
  • The taller the building, the more expensive it is. (ตึกรามบ้านช่องยิ่งสูง ราคายิ่งแพง)
    • "The taller the building" บอกระดับความสูงของตึกรามบ้านช่อง (ตึกรามบ้านช่องยิ่งสูง)
    • "the more expensive it is" บอกระดับราคา (ราคาจะยิ่งแพง)
  • The more I learn about history, the more I am amazed by it. (ยิ่งฉันเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งทึ่งกับมันมากขึ้นเท่านั้น)
    • "The more I learn about history" บอกระดับความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ (ยิ่งฉันเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากเท่าไหร่)
    • "the more I am amazed by it" บอกระดับความทึ่ง (ฉันก็ยิ่งทึ่งกับมันมากขึ้นเท่านั้น)

Degree Adverb Clause ยังสามารถใช้เปรียบเทียบ ระดับของสิ่งต่าง ๆ

ตัวอย่างประโยค:

  • She is as beautiful as a flower. (เธอสวยเหมือนดอกไม้)
  • This book is not as difficult as I thought it would be. (หนังสือเล่มนี้ไม่ยากอย่างที่ฉันคิดไว้)
  • The weather is getting hotter and hotter. (อากาศร้อนขึ้นเรื่อย ๆ)
  • The more you spend time with her, the better you will get to know her. (คุณใช้เวลากับเธอมากเท่าไหร่ คุณก็จะรู้จักเธอดีขึ้นเท่านั้น)
  • The more I think about it, the less I understand it. (ฉันยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเข้าใจมันน้อยลงเท่านั้น)

ตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม:

  • The harder you work, the more successful you will be. (คุณยิ่งทำงานหนักเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น)
  • The more money you save, the more comfortable you will be in retirement. (คุณยิ่งเก็บเงินได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสบายใจในวัยเกษียณมากขึ้นเท่านั้น)
  • The sooner we leave, the less traffic we will encounter. (เราออกเดินทางเร็วเท่าไหร่ เราก็จะเจอการจราจรน้อยลงเท่านั้น)
  • The taller the tree, the stronger its roots must be. (ต้นไม้ยิ่งสูง รากของมันก็ยิ่งต้องแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น)
  • The more I travel, the more I realize how much I love my own country. (ฉันยิ่งเดินทางมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้ตัวว่าฉันรักประเทศของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น)

Subscribe to THESKILL1.COM newsletter and stay updated.

Don't miss anything. Get all the latest posts delivered straight to your inbox. It's free!
Great! Check your inbox and click the link to confirm your subscription.
Error! Please enter a valid email address!